22.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินซาอุเดีย (SV) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
01.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SV849 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 8.15 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
06.00 น. เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
08.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยสายการบิน ซาอุเดีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SV215 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 25 นาที)
13.15 น. ถึง สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ประเทศเนเธอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
นำท่านมุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์(Zaanse Schans) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอัมสเตอร์ดัม ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์เบอเกอรี่ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชา โรงอบน้ำมัน (Oil Mill) และโรงงานทำรองเท้าไม้ที่อยู่คู่กับชาวดัชต์มาแต่โบราณ อิสระให้ท่านถ่ายภาพคู่กับสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ และเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ซึ่งที่มาของชื่อเมือง มาจากการรวมชื่อของแม่น้ำเข้ากับคำว่า “Dam” ที่แปลว่าเขื่อน ความหมายรวมหมายถึงเมืองที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนของแม่น้ำอัมสเติล จนกลายมาเป็น Amsterdam ทำให้ถูกขนานนามว่า เวนิสแห่งทะเลเหนือ เมืองอัมสเตอร์ดัมแห่งนี้มีประวัติศาสตร์เริ่มต้นจากการเป็นหมู่บ้านชาวประมง ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ก่อนจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน และการเดินเรือที่สำคัญ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ และขยายตัวออกไปอีกในศตวรรษที่ 19 และ 20 แต่ระบบคลองที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ยังได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดีจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโก
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) (บริเวณภายนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอาคารที่หรูหราและโอ่โถงที่สุดของประเทศเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของจักรพรรดินโปเลียน ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งของอัมสเตอร์ดัม
บริเวณใกล้กันจะเป็น จัตุรัสดามสแควร์ (Dam Square) สัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติ เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ทั้งยังเป็นสถานที่รวมตัวอันมีชีวิตชีวาไม่ว่าในโอกาสงานเฉลิมฉลองหรือการประท้วงต่างๆ ของอัมสเตอร์ดัม เดินถัดไปไม่ไกลจะเป็น Damrak เอกลักษณ์ของอัมเตอร์ดัมที่มีบ้านเรียงกันและหลังคาแต่จะหลังน่ารักๆ
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองรอตเตอร์ดัม (Rotterdam) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่าหลักและใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส (Maas River) ผ่านชมสะพานแขวน Erasmusburg สะพานที่เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม อีกแห่งหนึ่ง มีความยาวประมาณ 800 เมตร ทอดยาวไปตามแม่น้ำ Nieuwe Maas เชื่อมส่วนเหนือและส่วนใต้ของเมือง โครงสร้างของสะพานเป็นแบบแขวนมีความโดดเด่นด้วยเสาเหล็กสูง 139 เมตร ยึดด้วยสายไฟ 40 เส้น อาคารทำเนียบขาว (Witte Huis) เป็นหนึ่งในอาคารไม่กี่แห่งในใจกลางเมืองรอตเตอร์ดัมที่รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดในปี 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจุบันอาคารทำเนียบขาวใช้เป็นพื้นที่สำนักงานและร้านกาแฟ ตลาดในร่มแห่งแรกของเนเธอร์แลนด์ (Markthal) ประตูทางเข้าเป็นแบบซุ้มโค้งมีรูปลักษณ์โดดเด่นสะดุดตา ผนังด้านบนถูกตกแต่งด้วยผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลกในชื่อ Horn of Plenty บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) สีเหลืองสะดุดตาจนกลายเป็นจุดที่ผู้คนหลั่งไหลมาถ่ายรูป
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้ ยังเป็นที่โด่งดังในเรื่องของช็อกโกแลตและเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก และยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) และสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) จนถูกเรียกว่า ศูนย์กลางแห่งสหภาพยุโรป
นำท่านถ่ายรูปกับ รูปปั้นเด็กชายกำลังฉี่ (Manneken Pis) ประติมากรรมที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความเข้มแข็ง และสามัคคีของชาวบรัสเซลส์ มาตั้งแต่การรอดพ้นจากความเสียหายอย่างน่าอัศจรรย์ ในเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1695 โดยปัจจุบันแมนเนเกน พิส ยังรับบทบาทเป็นทูตสันถวไมตรีผ่านอาภรณ์ตามประเพณีพื้นเมืองหรือตามเทศกาลสำคัญในหลากประเทศทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาชมคอลเลกชั่นเสื้อผ้าที่มีอยู่กว่า 1,000 ชุด ภายในพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้อีกด้วย
จากนั้นให้ท่านอิสระเดินเล่นย่าน จัตุรัสกรองด์ ปลาส (Grand-Place) จัดเป็นหนึ่งในจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดรวมของอาคารและสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเก่าเเก่เเบบบาร็อก โกธิก เเละนีโอโกธิก ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) เป็นสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ เเละเป็นอาคารที่ถือว่างดงามมาก มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดแหลมของหอแขวนระฆัง บริเวณใกล้กันให้ท่านอิสระที่ ศูนย์การค้าแกลเลอรี รอยัล แซ็ง อูแบร์ (Galeries Royales Saint Hubert) ศูนย์การค้าที่ถูกใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์ ช้อปปิ้ง ให้ความบันเทิงแก่เหล่าบุคคลชั้นสูงของเมืองบรัสเซลส์ในสมัยศตวรรษที่ 19 แห่งนี้ คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ และประสบความสำเร็จที่สุดครั้งหนึ่งของเมือง โดยได้รับการออกแบบอย่างงดงามในสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ที่ตั้งอยู่กับศูนย์การค้ามาตั้งแต่แรกเริ่ม และแทรกไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังประปราย โดยปัจจุบันศูนย์การค้าแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งรวมความบันเทิงยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมซึ่งสามารถมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบรัสเซลส์ที่สะท้อนอยู่ในทุกอณูของศูนย์การค้า
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านถ่ายรูปกับ อาคารอะโตเมียม (Atomium Building) อาคารรูปทรงแปลกตาที่ได้ต้นแบบมาจากโครงสร้างการเรียงตัวกันของอะตอมซึ่งได้รับการยอมรับในแวดวงวิทยาศาสตร์ว่ามีความสมมาตร และงดงาม คืออาคารที่เป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จของเบลเยียมในการก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับต้นๆ ของโลก โดยอาคารอะโตเมียมเปิดตัวครั้งแรกในงานเอ็กซ์โปครั้งที่ 17 และกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ก้าวมาเป็นภาพจำสำคัญอีกแห่งของงานเวิลด์เอ็กซ์โป โดยปัจจุบันพื้นที่ภายในอาคารจะมีทั้งงานนิทรรศการ ร้านอาหาร จุดชมวิว ฯลฯ นับเป็นแลนด์มาร์กที่มีความล้ำหน้าทางสถาปัตยกรรมอยู่เสมอ แม้จะถูกสร้างมาแล้วกว่า 60 ปี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) คือเมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ และด้วยการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินได้อย่างสะดวกสบาย ประกอบกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ติดแม่น้ำใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองบรูกส์ (Bruges) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบแห่งเบลเยี่ยม เมืองขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ จากภูมิทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยแม่น้ำลำคลอง และวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบของชาวเมือง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม จนเรียกได้ว่าเป็น “เวนิสแห่งตอนเหนือ” เที่ยวชม จัตุรัสกลางเมืองบรูกส์ (Markt Square) ใจกลางเมืองที่แวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสำคัญอย่าง ศาลาว่าการเมืองบรูกส์ (Brugels Town Hall) อาคารสไตล์โกธิก (Gothic) ที่ยังคงเป็นที่ตั้งหน่วยงานต่างๆ ของเมืองอยู่จนถึงปัจจุบัน หอระฆังประจำเมือง (Belfry of Bruges) ยังทำหน้าที่ส่งเสียงเพลงอันไพเราะจากระฆังจำนวน 48 ใบที่ติดตั้งอยู่ภายใน มีความสูง 83 เมตร และมีบันได 366 ขั้น อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลีล (Lille) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของแคว้นนอร์-ปาดกาแล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศสติดกับชายแดนประเทศเบลเยี่ยมและใกล้กับชายแดนประเทศอังกฤษ เมืองหลวงแห่งนี้จึงมีกลิ่นอายของอังกฤษผสมเบลเยี่ยม นอกจากนั้นยังถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ของประเทศฝรั่งเศส รองลงมาจากปารีส ลียง และมาร์แซร์อีกด้วย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ ปารีส (Paris) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด กรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ชมลานประวัติศาสตร์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concord) มีความหมายว่า จัตุรัสแห่งความปรองดองหรือความสมานฉันท์ อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิสก์ (L’Obélisque) ประติมากรรมอันล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของประเทศอียิปต์และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกส่งให้เป็นของขวัญแก่พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ในปีค.ศ. 1829 และ ประติมากรรมน้ำพุ Fontaine de Jacques Hirtoff พระเจ้าหลุยส์-ฟิลิป โปรดให้สถาปนิก Jacques Hittoff สร้างน้ำพุ 2 แห่ง บริเวณกลางลานจัตุรัสคองคอร์ด ผ่านชมสวนตุยเลอรี Tuileries Garden อดีตเป็นสวนของพระราชวังหลวงอันเก่าแก่ใจกลางกรุงปารีส อยู่ระหว่าง จัตุรัสคองคอร์ดและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ไม่พลาด ถ่ายภาพพีระมิดแก้ว ด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์ชื่อดังที่ตั้งอยู่กลางเมืองใหญ่แห่งนี้ โดดเด่นสะดุดตาด้วยทางเข้าที่เป็นทรงโดมพีระมิดแก้วที่เป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิทธภัณฑ์ที่เก็บรักษาผลงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 380,000 ชิ้น ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นตามอัธยาศัย
อิสระช้อปปิ้ง ณ Duty Free น้ำหอม เครื่องสำอาง และ Shopping ห้างลาซามาริแตง (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าคอนเซ็ปต์สโตร์ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งนับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อปี 1870 อาคารเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่บริเวณเลียบแม่น้ำแซน หนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างอาร์ตนูโว (Art Nouveau) และอาร์ตเดโค (Art Déco) มีพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยร้านค้าระดับพรีเมียมกว่า 600 แบรนด์ตลอดทั้ง 7 ชั้น ร้านอาหารอีกกว่า 12 ร้าน ผสานทั้งความเก่าแก่ โมเดิร์น แฟชั่น อาหาร และที่สำคัญกับงานศิลปะ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนเนมตามอัธยาศัย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ จัตุรัสทรอคาเดโร บริเวณเนินเขา ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำแซน มีลานกว้างขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้ทั้งหอไอเฟล สวนสาธารณะชองเดอมาร์ส เป็นจุดที่ถ่ายรูป หอไอเฟล ได้ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในปารีส (กรณีจัตุรัสทรอคาเดโร มีการจัดงานหรือปิดในวันที่เดินทางไป จะต้องเปลี่ยนจุดถ่ายรูปหอไอเฟลเป็นมุมอื่นๆแทน)
นำท่านผ่านชม มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมโกธิคยุคกลาง อายุกว่า 850 ปี สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกไปเยี่ยมชมมหาวิหาร 13 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 35,000 คน ตัวอาคารมีความสูงวัดถึงยอดอยู่ที่ 69 เมตร กว้าง 69 เมตร ยาว 128 เมตร ภายในและภายนอกอาคารประดับประดาด้วยประติมากรรม และหน้าต่างกระจกสี มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม ตั้งอยู่บนเกาะ อีล เดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1163 ในยุคของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 และสร้างเสร็จในปี 1345 มหาวิหารแห่งนี้เคยได้รับความเสียหายและถูกปล่อยปละละเลยในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส และนำไปสู่การบูรณะครั้งใหญ่ระหว่างปี 2387-2407 มหาวิหารนอเทรอดาม ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ปี 1991
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมกรุงปารีส ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ ประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) หรือ ประตูชัยฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลเดอโกล ทางทิศตะวันตกของถนนฌ็องเซลิเซ่ ประตูชัยนี้เป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของถนนถึง 12 เส้น สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ผู้กล้า ผู้สละชีพในสงครามนโปเลียน สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่ 1 ปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ผ่านชมถนนสายโรแมนติก ถนนช็องเซลีเซ (Champs Elysees) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกและยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมของตึกในสมัยโบราณ
จากนั้นอิสระให้ท่าน Shopping ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อีกทั้งยังยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องสำอางมากมาย อาทิ Chanel , Christian Dior, Prada, Balenciaga ฯลฯ รวมไปถึงมีภัตตาคารซึ่งให้บริการอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของเมืองปารีสอีกมากมาย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านแวะชม ย่านมงมาร์ต (Montmartre) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหานครปารีส เนื่องจากเป็นพื้นที่บนเนินสูง จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวของปารีสได้เเบบพาโนรามา ย่านนี้ถูกขนานนาม ว่าเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของศิลปิน ถ่ายภาพ มหาวิหารซาเครเกอร์ (Bassilica of Sacre Coeur) (ด้านนอก) ตัวโบสถ์นั้นถูกสร้างขึ้นในสไตล์ไบเซนไทน์ (Byzantine-style) ตัววิหารซาแครเกอร์ก่อจากหินปูนทราเวอร์ทีน เป็นหินที่โดดเด่นเรื่องการทนต่อสภาวะอากาศส่งผลให้ตัววิหารเองยังคงความงดงามมาได้จนทุกวันนี้
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล
15.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV126 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.50 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
22.55 น. เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2.45 ชั่วโมง)
01.55 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV844 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 8 ชั่วโมง 15 นาที)
13.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด พร้อมคณะ รวมค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน
ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม จำนวน 2 ใบ และถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ค่ารถนำเที่ยวตามเส้นทางที่ระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้ขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน)
ค่าอาหารและค่าเข้าชม ตามที่ระบุในรายการ
ค่ามัคคุเทศก์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
ค่าธรรมเนียมวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่า โดยประมาณ 4,500-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางสถานทูตกำหนด และไม่รวมค่าบริการยื่นวีซ่าของเจ้าหน้าที่ท่านละ 500 บาท *ชำระกับเจ้าหน้าที่วีซ่า ณ วันยื่น* ทั้งนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าคิวพิเศษอื่น ๆ (การชำระค่าวีซ่าตามจริง เป็นวิธีประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เราได้เลือกสรรค์สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดให้ท่านแล้ว)
กรณีลูกค้าไม่สะดวกไปตามวันยื่นวีซ่าที่บริษัทกำหนด และต้องทำคิววีซ่าแยก ลูกค้าต้องชำระเงินในส่วนค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่าก่อน เนื่องจากทางศูนย์ยื่นวีซ่าออกกฎใหม่ ต้องชำระค่าบริการทันทีในวันที่ทำการจองคิว ทั้งนี้หากจองแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนวัน เปลี่ยนเวลา และไม่สามารถเรียกคืนค่าบริการได้
ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้น
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้องพัก , ค่ากระเป๋าเดินทางหากเกิดการชำรุดหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทางทัวร์กำหนด หรือการรีเควสอาหารพิเศษต่างๆ เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อาหารอิสลาม อาหารทะเล เป็นต้น
ค่าน้ำหนักกระเป๋าส่วนเกินจากที่ทางสายการบินกำหนด
ค่าจ้างของคนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 3,500 บาท ชำระที่สนามบิน ณ วันเดินทาง
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (ตามมาตรฐานการให้ทิปวันละ 100 บาท/ท่าน/วัน)
**ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ในการบริการของหัวหน้าทัวร์**
ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯ ไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พักและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี)
เงื่อนไขโรงแรมที่พัก
ห้องพักโดยปกติจะสามารถพักได้ห้องละ 2 ท่าน
กรณีลูกค้าต้องการเข้าพัก 3 ท่าน อาจจะได้เป็น 1 เตียงใหญ่ และ 1 เตียงเสริมแบบพับ หรือ SOFA BED แต่หากในวันที่เข้าพักโรงแรมนั้นไม่มีห้องสำหรับ 3 ท่าน จำเป็นต้องแยกห้องพัก เป็น... พัก 2 ท่าน 1 ห้อง และ พักเดี่ยว 1 ห้อง ไม่ว่ากรณีใดใด ผู้เข้าพักจะต้องชำระค่าห้องพักเดี่ยวเพิ่ม (ซึ่งจะทราบก่อนเดินทางประมาณ 3-5 วัน)
สำหรับห้องพักเดี่ยว (พักท่านเดียว) ห้องอาจมีขนาดเล็ก และไม่สามารถระบุประเภทของเตียงได้ ขึ้นอยู่กับทางโรงแรมเป็นจัด
โรงแรมที่พักส่วนใหญ่จะไม่มีเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศจะหนาวเย็นเกือบทั้งปี
โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ ห้องพักจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่มีอ่างอาบน้ำ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของโรงแรมนั้นๆ แต่ละห้องอาจมีขนาดและการตกแต่งในลักษณะที่แตกต่างกัน
โรงแรมจะมีการวางผังห้องพักแต่ละประเภทแตกต่างกัน จึงทำให้ห้องพักแต่ละประเภทนั้นไม่ได้อยู่ติดกันหรืออยู่คนละชั้น หากลูกค้าต้องการห้องติดกัน อาจจะไม่ได้ในรูปแบบห้องพักที่ท่านต้องการ
กรณีห้องพัก ตามในเมืองที่ระบุไว้ในโปรแกรม มีเทศกาลวันหยุด หรืองานแฟร์ต่างๆ หรือมีการจัดงานประชุมนานาชาติ เป็นผลทำให้ห้องพักในเมืองนั้นเต็ม หรือไม่เพียงพอ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองอื่นแทน
การยกเลิก
1. กรณีผู้เดินทางขอยกเลิกการเดินทาง
ยกเลิกการเดินทางมากกว่า 31 วันก่อนเดินทางทุกกรณี เก็บค่าบริการ 8,000 บาท และค่าใช้จ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมที่พัก เป็นต้น
ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 30 วันก่อนเดินทางทุกกรณี เก็บค่าบริการทัวร์เต็มจำนวน
2. กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธวีซ่าจากสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และ กรณีผู้เดินทางเจ็บป่วย เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถเดินทางได้
จะต้องมีใบรับรองแพทย์ (กรณีเจ็บป่วย) เพื่อยืนยันกับสายการบินและตัวแทนบริษัทที่ต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ)
ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า (กรณีที่ท่านยื่นวีซ่าแล้ว) ค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ เป็นต้น
ค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
ค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา จะต้องชำระค่าตั๋วเครื่องบินตามจริง
ค่าโรงแรมที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ เนื่องด้วยบริษัทฯ ได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว ไม่สามารถคืนเงินได้
3. หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่าแล้ว และขอยกเลิกการเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
4. กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้า-ออกประเทศ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
5. เมื่อออกเดินทางแล้ว หากท่านไม่ใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการหรือเงินค่าทัวร์คืนได้
6. หากท่านยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องชำระค่าส่วนต่างกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน (กรุณาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม)
7. กรณีจองทัวร์เดินทางช่วง วันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์, วันหยุดยาวต่อเนื่อง หากท่านมีการยกเลิก ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าทัวร์ทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
188/6 ซอยลาดพร้าว 122 (มหาดไทย1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310